“น้ำหนักทอง” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่มือใหม่หัดซื้อขายทองคำต้องรู้ เพราะมีความสำคัญต่อการ ราคาทอง ทั้ง ราคารับซื้อ และ ราคาขายออก รวมไปถึง “หน่วยน้ำหนักทอง” และ “เปอร์เซ็นต์ทอง” ที่แต่ละประเทศจะใช้หน่วยและนิยมเปอร์เซ็นต์ไม่เหมือนกัน
“หน่วยน้ำหนักทองคำ” ค่อนข้างหลากหลายและมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามแต่ละประเทศ ซึ่งมีดังนี้
นอกจากนี้ยังมีหน่วยอื่นๆที่แต่ละประเทศนิยมใช้กัน
"เปอร์เซ็นต์ทองคำ" หรือ "ความบริสุทธิ์ทองคำ" ในประเทศไทยจะนิยม ทองคำบริสุทธิ์ 96.5 % และ ทอคำบริสุทธิ์ 99.99 % ซึ่งทองทั้งสองแบบจะแตกต่างกันเรื่องน้ำหนักและราคา รวมไปถึงความนิยม
โดย ทองคำบริสุทธิ์ 96.5 % นิยมที่สุดในไทย เพราะมีความแข็งแรงพอที่จะทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ ได้ ซึ่งทองที่เห็นตามร้านทองส่วนใหญ่เป็นทองคำแบบนี้ มีน้ำหนักให้เลือกซื้อขายตั้งต่ 0.6 กรัม - 5 บาท , 10 บาท
ส่วน ทองคำบริสุทธิ์ 99.99 % จะนิยมทั่วโลกในหลายๆประเทศ โดยเป็นทองคำเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์นี้มีความอ่อนตัวอยู่มาก จึงไม่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะซื้อขายกันเป็น กิโลกรัม ( Kg )
ซึ่งในแต่ละประเทศจะนิยมเปอร์เซ็นต์ททองที่แตกต่างกัน ดังนี้
ทองคำบริสุทธิ์ 99.9 % นิยมในประเทศอินเดีย
ทองคำบริสุทธิ์ 99.5 % นิยมในประเทศแถบตะวันออกกลาง
ทองคำบริสุทธิ์ 99.0 % นิยมในประเทศฮ่องกงเท่านั้น
“น้ำหนักทอง” ในประเทศไทยเมื่อแปลงค่าน้ำหนักเป็น “กรัม” จะแตกต่างกัน ตามเปอร์เซ็นต์ทองและประเภททองคำ
ทองคำบริสุทธิ์ 96.5 %
ทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15.24 กรัม
ทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15.24 กรัม
ทองคำบริสุทธิ์ 99.99 %
ทองคำ 1 กิโลกรัม หนัก 32.148 ออนซ์
ทองคำ 1 กิโลกรัม หนัก 65.6 บาท
สาเหตุที่ทองคำแท่งมีน้ำหนักเยอะกว่า เพราะขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก,ไม่มีส่วนที่ต้องต่อกัน เป็นการเทลงบล็อค จึงได้เนื้อทองเต็มๆกว่า ไม่เหมือนทองรูปพรรณที่น้ำหนักหายไปส่วนหนึ่งจากการแปรรูปเป็นเครื่องประดับ และยังมีส่วนประกอบของ “น้ำประสานทอง” อีกด้วย
นอกจากนี้หากต้องการหาน้ำหนักทอง กี่กรัม เท่ากับ กี่สลึง สามารถนำเอา ตัวเลขน้ำหนักทอง 1 สลึง ( หน่วยเป็น “กรัม “ ) มาหาร เช่น แหวนทอง 0.6 กรัม หนักกี่สลึง ? ก็จะได้ 0.6 / 3.79 = 0.1583 สลึง