เงิน 2,000 บาท ถือได้ว่าเป็นจำนวนที่พอเหมาะสำหรับการเก็บออมในแต่ละเดือน ซึ่งช่องทาง ในการเก็บเงินนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทำให้หลายๆคนอาจจะเลือกไม่ถูก หรือไม่รู้ว่าแบบไหนเหมาะสมและตรงกับความต้องการที่จะออมจริงๆ ทำให้บทความนี้เราได้รวมรวบ“ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน” ที่เหมาะในการออมเงินมาฝาก
1. บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี การฝากเงินในธนาคารเป็นวิธีพื้นฐานการออมที่ดี แต่ก็ต้องเลือกบัญชีเงินออมให้ถูก ซึ่ง ”บัญชีเงินฝากปลอดภาษี” คือ บัญชีสำหรับฝากเงินประจำทุกเดือน ด้วยเงินจำนวนเท่าๆกัน ( ขั้นต่ำ 1,000 บาท ) มีระยะเวลากำหนดในการฝากทั้ง24 เดือน , 36เดือน มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่า บัญชีทั่วไป ซึ่งเมื่อฝากครบตามเวลากำหนดจะได้เงินก้อนพร้อมดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยเงินฝากนี้ก็ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย ( ปลอดภาษีดอกเบี้ย ) ถือได้ว่าเป็นปัญชีเงินฝากที่ปลอดภัย และช่วยฝึกวินัยในการออมที่ดี ออมระยะยาว ออมอย่างสม่ำเสมอ ลองสำรวจ บัญชีเงินฝาก ที่มีอยู่ในตอนนี้ ว่ามีกี่บัญชี และมีบัญชีอะไรบ้าง
2. สลากออมทรัพย์ ออมสิน , ธกส ออมในสลากออมทรัพย์ก็ไม่ต่างจากการฝากเงินในธนาคาร ตรงที่มีดอกเบี้ยเงินฝากให้ มีระยะเวลากำหนดฝาก ( ถือครองสลาก 2 ปี , 3 ปี ) แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ “รางวัลสลาก” ที่มีโอกาสลุ้นถูกรางวัลในทุกเดือน ( ทุกวันที่ 1 , 16 ) โดยวิธีคือซื้อสลากทุกเดือน ด้วยจำนวนเงินที่ต้องการออม จะได้ชุดเลขสลากมา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้นรักษาเงินต้น พร้อมรับดอกเบี้ย และวัดดวงตัวเอง ลุ้นถูกรางวัลไปด้วย เพราะหลักคือต้องการออมเงิน รางวัลคือผลพลอยได้ เรื่องดวงเรื่องโชคแล้วแต่คนจริงๆ
3. ประกันแบบสะสมทรัพย์ “ประกันออมทรัพย์” หรือ สะสมทรัพย์ คือประกันรูปแบบหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับออมเงิน พร้อมด้วยความคุ้มครองและผลประโยชน์ ทั้งดอกเบี้ย ,เงินปันผล ( บางประกัน ),ลดหย่อนภาษี,การเสียชีวิต โดยมีให้เลือกออมทั้ง ออมระยะสั้น , ออมระยะยาว และเลือกได้ว่าจะออม ( เบี้ยประกัน ) แบบไหน รายเดือน , ราย 3 เดือน , ราย 6 เดือน เช่น ประกันออมทรัพย์ 5/10หมายถึงออมไป 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการออมเงินไปเรื่อยๆ เพื่อความอุ่นใจ ว่าจะมีเงินใช้ในอนาคต
4. กองทุนรวมแบบมีประกัน กองทุนรวม คือ การรวมรวบ,ระดมเงินจากคนจำนวนมาก นำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดี แล้วนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ที่ลงทุน โดยจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้มีประสบการณ์ในการลงทุนเป็นคนดูแล บริหารเงินกองทุนให้เกิดผลประโยชน์ ซึ่ง กองทุนรวมพิเศษอย่าง “กองทุนรวมมีประกัน” คือกองทุนที่มีการจัดหา “ผู้รับประกัน” อย่างสถาบันการเงินหรือธนาคาร มารับประกันว่าจะจ่ายเงินลงทุนหรือผลตอบแทนคืนให้กับผู้ลงทุนแน่นอนเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด เพราะหากกองทุนไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างที่ระบุไว้ ก็ทำให้มั่นใจได้ว่า เงินต้นที่ได้ลงทุนไปนั้นไม่สูญหายไป กองทุนขาดทุน ก็ยังมีโอกาสได้เงินต้นคืน จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนสร้างผลตอบแทนแต่ไม่เสี่ยงสูง,ปลอดภัย,เงินต้นลงทุนไม่หาย
5. ออมทอง อีกหนึ่งรูปแบบการออมเงินที่ได้รับความนิยมเป็นการออมเงินในทองคำ โดย “การออมทอง” คือ นำเงินไปซื้อทองคำแท่งสะสมในทุกๆเดือน ( ตัดบัญชี 1 ครั้ง แต่เฉลี่ยซื้อทองทุกวัน ) ด้วยเงินจำนวนเท่าๆกัน เมื่อออมครบตามระยะเวลาที่ต้องการหรือตามน้ำหนักทองที่ต้องการ สามารถเบิกทองออกมาเก็บไว้กับตัวเอง หรือหากไม่เบิกก็ขายคืนเปลี่ยนเป็นเงินสด ซึ่งการออมทองจะออมเป็น “น้ำหนักทอง” โดยเฉลี่ยจากเงินออมในแต่ละเดือน เหมาะสำหรับคนที่ออมเงินระยะยาว , คนที่อยากได้ทองคำแต่ทยอยซื้อด้วยเงินทีละน้อย สะสมไปเรื่อยๆ
การออมเงิน ไม่สำคัญว่าเงินจะมากหรือน้อย สำคัญตรงที่การลงมือเก็บออม การวางแผนการเงิน เงินจำนวนน้อยเมื่อเก็บหอมรอมริบไปเรื่อยๆ ก็จะเพิ่มพูนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาได้ ดังนั้น เริ่มต้นออมในตอนนี้ก็ไม่สายเกินไป
อ่านบทความเพิ่มเติม. " ออมทองดีไหม ? "
