ทอง 1 บาท เป็นน้ำหนักทองมาตรฐานในประเทศไทย ที่นิยมซื้อทั้งในรูปแบบ ทองรูปพรรณ และ ทองคำแท่ง ซึ่งหากจะเจาะลึกลงไปอีก นอกจากใส่เป็นเครื่องประดับหรือเก็บออมแล้ว ทอง 1 บาทยังสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างหลายคนก็อาจจะไม่รู้
- ทอง 1 บาท สามารถตียืดออกเป็นเส้นลวดยาวได้ถึง 4 กิโลเมตร หรือ ตีเป็นแผ่นบาง ๆ ได้ 100 ตารางฟุต , ทองคำบริสุทธิ์หนัก 1 ออนซ์ สามารถตียืดเป็นเส้นลวดยาวได้ถึง 80 กิโลเมตร หรือ
- ทองคำบริสุทธิ์หนัก 1.85971681 บาท สามารถยืดเป็นเส้นลวดยาวได้ถึง 8,000,000 เซ็นติเมตร หากตีเป็นแผ่นจะได้บางขนาด 0.00005 นิ้ว และมีความกว้างถึง 9 ตารางเมตร
- ทอง 1 บาท ปริมาณไม่ถึง 1 ซีซี หากเป็นหยดน้ำก็เพียงไม่กี่หยด
- ทอง 1 บาท สกัดได้ในขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 1 ตัน มากกว่าการสกัดแร่ทองคำบริสุทธิ์ 1 ตัน ที่มีทองประมาณ 3-5 กรัม
- ทอง 1 บาท ตีเป็นแผ่นทองคำเปลวได้ 50 ตารางฟุต (0.0001 มิลลิเมตร )หากจะเทียบก็คือไม้บรรทัด 5 อันเรียงกันทั้งกว้างและยาว
- ทอง 1 บาท ตีเป็นจนบาง 0.1 ไมโครเมตร จะได้พื้นที่ 8 ตารางเมตร
- ทองแท่ง 1 บาท ซื้อถูก ขายแพง กว่า ทองรูปพรรณ 1 บาท
- ทอง 1 บาท เป็นที่ต้องการกว่า เพชร 1 กะรัต เพราะซื้อง่าย ขายง่าย
- ทองแท่ง 1 บาท จำนวน 590 ชิ้น สามารถหล่อพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 29 เซนติเมตร , สูง 42 เซนติเมตร จำนวน 1 องค์
- ทองแท่งบริสุทธิ์ 1 บาท จำนวน 16,400 แท่ง หลอมรวมกันจะกลายเป็นทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ทอง 1 บาท สามารถกินได้ ไม่มีสารพิษ ไม่มีรสชาติ
- ทอง 1 บาท พบได้ในเลือดของมนุษย์ จำนวน 0.0002 กรัม หรือ จำนวน 76,000 คนรวมกัน
- ทอง 1 บาท ทำเป็นเหรียญทองโอลิมปิกได้ถึง 74 เหรียญ ด้วยมีส่วนผสมทองแท้ 1.34 %
- ทอง 1 บาท สามารถลดน้ำหนักได้ 7 กิโลกรัม เพราะเมืองดูไบมีนโยบายแจกทอง 2 กรัม ต่อเด็กทุกคนที่ลดความอ้วนได้ 1 กิโลกรัม เพื่อแก้ปัญหาโรคอ้วนในเด็ก
- ทอง 1 บาท ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ ไม่ให้ลดหรือทำลายประสิทธิภาพอุปกรณ์อวกาศได้ โดยใช้ความหนาเพียงแค่ 0.000006นิ้วเท่านั้น
- ทอง 1 บาท นำกลับมาหลอมใหม่ได้หลายครั้งนับไม่ถ้วน
- ด้านอุตสาหกรรมเครื่องประดับ
ทองรูปพรรณ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ , สร้อยข้อมือ , แหวน ฯลฯ น้ำหนักทอง 1 บาท ถือเป็นน้ำหนักมาตรฐานที่คนมักนิยมซื้อ ซึ่งความสวยงามของลวดลายทองนี้ ทำให้ส่วนใหญ่นอกจากจะซื้อใส่ประดับร่างกายแล้ว ยังซื้อไปใช้ในด้านอื่นๆด้วย เช่น เป็นสินสอด ทองหมั้น , รับขวัญเด็กแรกเกิด หรือให้เป็นของขวัญ และยังมีน้ำหนักทองอื่นๆให้เลือกตามกำลังทรัพย์ด้วยเช่น 2 สลึง , 1 สลึง , ครึ่งสลึง เป็นต้น - ด้านอุตสาหกรรมเล็กทรอนิกส์
ทองนำมาใช้งานในด้านนี้เยอะพอสมควร เช่น แผงตัดของสวิตซ์โทรศัพท์ , ใช้เพื่อให้กระแสไฟฟ้าเดินได้สะดวก , ใช้ลวดทองคำขนาดเล็กมาก ๆ เชื่อมต่อวัสดุที่เป็นกึ่งนำและทรานซิสเตอร์ใช้ตาข่ายทองคำป้องกันการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในระบบสื่อสารการบินพาณิชย์ , ใช้โลหะทองคำเจือเงิน , ใช้ในอุตสาหกรรมหลอดสูญญากาศ ด้วยทองคำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี ทำให้สามารถนำมาใช้ในงานด้านนี้กันเยอะ - ด้านคมนาคมและการสื่อสารโทรคมนาคม
ทองคำมีคุณสมบัติสะท้อนรังสีอินฟาเรด จึงถูกนำมาใช้กับดาวเทียม ชุดอวกาศ และยานอวกาศใช้ในการป้องกันแผ่รังสีของดวงอาทิตย์มากเกินไป , ใช้แผ่นฟิล์มทองคำ ด้วยทอง 24 k น้ำหนัก 77.7 กิโลกรัม เพื่อลดความร้อน และอื่น ๆ อีกมากมาย จำนวนการใช้น้ำหนักทองก็มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งาน - ด้านวงการแพทย์และทันตกรรม
เป็นความเชื่อโบราณที่มีมานานแล้ว ว่าหากนำทองมาผสมกับยา จะเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีชีวิตยืนยาว , นอกจากนี้ยังมี ยาเม็ดทอง ที่ใช้กิน เพื่อลดโรคหลาย ๆ อย่าง อย่าง การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและการเป็นหมั้น ส่วนในโลกยุคใหม่นั้น ทอง ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นการบำบัดรักษาโรคภัย , การใช้ทองเป็นส่วนหนึ่งในการแยกวิเคราะห์ปอดและตับ ส่วนทางด้าน ทันตกรรม ทอง จะนำมาใช้ในการอุดฟัน , ครอบฟัน , ฟันปลอม และการดัดฟันและจัดฟัน - ด้านเศรษฐกิจ
ทอง เป็นโลหะสื่อกลางของการแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งในด้านการลงทุนแล้ว ทอง เป็นเครื่องมือเก็งกำไรของตลาดการค้า และถูกยกให้เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เมื่อใดที่ตลาดเงินมีความผันผวน,ไม่แน่นอน นักลงทุนจะหันมาถือครองทองคำมากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง เช่นเดียวกับ กองทุน,สถาบันการเงินโลก และแต่ละประเทศก็มีการเก็บทองคำสำรองไว้
ซึ่ง ทอง 1 บาท กับการลงทุนทองคำในประเทศไทยนั้นสามารถทำได้ โดยเป็นการซื้อขายทองคำแท่ง ซึ่งก็มีหลายช่องทางการลงทุน แต่ที่น่าสนใจคือสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยน้ำหนักทอง 1 บาทขึ้นไปได้ เหมาะสำหรับมือใหม่หัดลงทุนทองที่ไม่อยากซื้อทองเยอะๆอย่าง 5 บาท, 10 บาท
อ่านบทความเพิ่มเติม. " ซื้อทองแบบไหน ขายคืนง่าย ได้ราคาดี "
