เรื่อง"ทองคำแท่ง" ที่หลายคนไม่รู้

18 เมษายน 2020 | เมื่อ 11:39 ก่อนเที่ยง

คนไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกันดีกับการซื้อทองคำที่เป็นรูปแบบเครื่องประดับอย่าง สร้อยทอง,แหวนทอง,สร้อยข้อมือ, ฯลฯ ซึ่งทองเหล่านี้เรียกว่า ทองรูปพรรณ ส่วนทองคำที่เป็นแท่ง หลายคนมักไม่คุ้นหรือไม่เคยซื้อมาก่อน และเมื่ออยากซื้อขึ้นมา อาจเกิดคำถามในใจมากมายว่าจะเหมือนกับการซื้อสร้อยทอง,แหวนทองหรือไม่ 

เพราะทองแท่งแตกต่างจากทองรูปพรรณ ทั้งเรื่องน้ำหนัก, ลวดลาย, รวมถึง ราคา ดังนั้นการซื้อทองแท่งสัก 1 ชิ้น ต้องรู้ถึงสิ่งสำคัญเหล่านี้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความงุนงงสับสน 

1. ทองคำแท่ง มีน้ำหนักไม่ต่างจาก ทองรูปพรรณ คือเริ่มต้นตั้งแต่ทอง 0.3 กรัม, 0.6 กรัม, 1 กรัม, ครึ่งสลึง, 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท, 2 บาท ไปจนถึง 5 บาท-10 บาท แต่น้ำหนักที่หน่วยเป็น “กรัม“ จะเยอะกว่าคือ 15.244 กรัม (ทองรูปพรรณ 15.16 กรัม) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะซื้อทองแท่งด้วยเงินแค่หลักพันต้นๆ 

2. ทองคำแท่ง มีค่าแรง (ค่าบล็อค) ต่ำกว่า ทองรูปพรรณ เนื่องด้วยไม่ได้ถูกแปรรูปเป็นเครื่องประดับ หรือเรียกได้ว่าขั้นตอนการผลิตง่ายกว่านั่นเอง  โดยทองแท่งน้ำหนักต่ำกว่า 5 บาท ต้องเสียค่าบล็อค ซึ่งราคาเฉลี่ยประมาณ 100-200 บาท 

3. ทองแท่งขายได้ราคาดีกว่าทองรูปพรรณ เพราะมักจะไม่โดนหักค่าเสื่อมสภาพ 5% (ตามสมาคมฯ กำหนด) และไม่มีน้ำประสานทองที่ต้องสกัดออกตอนหลอมเหมือนทองรูปพรรณ ดังนั้น ทองแท่ง สามารถนำไปขายต่อได้เรื่อยๆ 

4. ทองแท่งที่ได้มาตรฐานต้องมีการบอกรายละเอียดบนเนื้อทองอย่างชัดเจน เช่น เปอร์เซ็นต์ทอง 96.5% หรือ 99.99%, ยี่ห้อร้าน, น้ำหนักทอง, Serial Number รวมไปถึงมีใบรับประกันสินค้า (Certificate)

5. ทองคำแท่งขายในต่างประเทศได้ แต่ต้องเป็นทอง 99.9% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์มาตรฐานทองโลก ส่วนในไทยจะนิยมทอง 96.5% โดยบางประเทศจะนิยมทอง 90%, ทอง 75% (18K)  ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในวงการงานจิวเวลรี่ เพราะมีความแข็งแรงสามารถฝังพวกอัญมณี, เพชร, พลอยได้

6. ราคาทองคำแท่ง มีส่วนต่าง ราคารับซื้อ , ราคาขายออก อยู่ที่ 50-100 บาท เท่านั้น ส่วนราคาทองรูปพรรณ จะอยู่ที่ 500-1,000 บาท โดย ราคารับซื้อทองแท่ง จะแพงกว่า ราคารับซื้อทองรูปพรรณ และ ราคาขายออกทองแท่ง จะถูกกว่า ราคาขายออกทองรูปพรรณ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ทองแท่ง ซื้อถูก ขายแพง กว่าทองรูปพรรณ นั่นเอง 

7. ทองแผ่น ก็คือทองจริงรูปแบบหนึ่ง โดยนำทองคำมาฉีดขึ้นรูปให้เป็นแผ่นเหมือนกระดาษ แล้วมีการปั๊มลวดลายต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักน้อยๆ เช่น 1 กรัม, 0.6 กรัม, 0.3 กรัม หรือแม้แต่ 0.1 กรัม ที่มีความบางมากๆ ราคาก็อยู่ที่หลักร้อย หลักพัน ส่วนมากจะซื้อให้เป็นของขวัญ หรือเก็บเป็นที่ระลึกมากกว่า

8. ทองคำแท่งเป็นทองคำที่เน้นซื้อเก็บ ไม่ว่าจะเก็บไว้เก็งกำไร, เก็บเป็นมรดกทรัพย์สิน, เก็บเป็นของขวัญ, เก็บเป็นต้นทุนให้กับลูกหลานในอนาคต ดังนั้นทองแท่งจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบซื้อทองเก็บ ไม่เน้นใส่ 

9. ซื้อทองคำแท่งที่ร้านไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องที่เยาวราช แต่ต้องเป็นร้านทองที่ได้มาตรฐาน, เป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ ส่วนการขายทองคืน ไม่ว่าจะขายคืนร้านเดิมหรือขายคืนต่างร้าน ก็สามารถขายได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นทองที่มียี่ห้อ, มีใบรับประกันสินค้า ตัวทองไม่ชำรุด, หัก, น้ำหนักหาย เปอร์เซ็นต์เต็มก็จะได้ราคารับซื้อเต็ม 

10. ทองแท่งกับความหมายดีๆ ทองแท่งได้รับการออกแบบลวดลายบนเนื้อทองรวมถึงตัวบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเทศกาลวันสำคัญต่างๆ เช่น ตรุษจีน, สงกรานต์, วันพ่อ, วันแม่, วาเลนไทน์, รับปริญญา, รับขวัญหลาน หรือนักษัตร, ราศี ฯลฯ เป็นข้อดีที่ทำให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ซื้อไปเป็นของขวัญให้ในวันต่างๆ ได้ตรงจุดประสงค์

11. ทองคำแท่งมักจะถูกนำไปใช้ในการ “ออมทอง” คือ เงินที่ลูกค้าได้ออมในแต่ละเดือน จะถูกนำไปซื้อทอง ซึ่งเป็นทองคำแท่ง ทำให้ได้ราคาขายออกทองคำแท่ง และเวลาขายคืนก็จะได้ราคารับซื้อทองคำแท่งเช่นกัน 

โพสต์ล่าสุด