ลงทุนทองคำแท่งได้กำไรดีกว่าทองรูปพรรณอย่างไร

21 มิถุนายน 2018 | เมื่อ 16:28 หลังเที่ยง

 

หากจะพูดถึงเรื่องของการลงทุนแล้ว ทองคำเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่นักลงทุนคุ้นเคย คนไทยใช้สะสมความมั่งคั่งมาอย่างยาวนานในรูปแบบของทองรูปพรรณ  แต่ในปัจจุบัน ทองคำแท่งเป็นทางเลือกที่ทำให้การลงทุนหรือเก็งกำไรในทองคำสามารถทำได้ง่ายขึ้น

สาเหตุที่ทองคำแท่งเหมาะสำหรับการลงทุน เก็งกำไร หรือสะสมความมั่งคั่งมากกว่านั่นก็คือ

1. ทองคำแท่ง มีค่าบล็อกที่ถูกกว่าค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ เมื่อเราไปซื้อทอง ในขนาดน้ำหนักที่เท่ากัน เช่น ทองคำแท่ง 1 บาท กับแหวนทอง 1 บาท ทองคำแท่ง 1 บาท ราคารวมจะถูกกว่าแหวนทอง 1 บาทอยู่ประมาณ 500-600 บาท และโดยมากแล้ว หากซื้อทองคำแท่งขนาด 5 บาทขึ้นไป จะไม่มีค่าบล็อค

2. ราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง ถูกหักน้อยกว่าทองรูปพรรณ เมื่อเรานำทองไปขายคืน ทองรูปพรรณจะถูกหักประมาณ 5% แต่ทองคำแท่งจะไม่ถูกหัก หรือหักน้อยกว่านั้นมาก บางครั้งเราจะเห็นว่า ราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง 1 บาท กับสร้อยคอทองคำ 1 บาท ได้ราคาต่างกันเกือบพันบาทเลยทีเดียว 

จะเห็นได้ว่า การซื้อขายแต่ละรอบ ทองคำแท่ง 1 บาท กับทองรูปพรรณ 1 บาท มีส่วนต่างกันอยู่ถึงประมาณ 1,500-1,600 บาทเลยทีเดียว

ในปัจจุบันการซื้อขายทองคำแท่ง มีหลายรูปแบบ หลายช่องทางมากขึ้น ทั้งรูปดั้งเดิม และนวัตกรรมในการลงทุนทองคำแท่งใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนมากขึ้น โดยในแต่ละรูปแบบก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปให้เราเลือกลงทุน ที่ได้รับความนิยมมี 3 รูปแบบการซื้อขายดังนี้

1. ซื้อทองคำแท่งผ่านร้านทอง  วิธีการซื้อขายทองคำที่เราคุ้นเคยกันมานาน ราคาที่ใช้ซื้อขายก็มักเป็นราคาที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย (ซึ่งคำนวณมาจากราคาทองคำต่างประเทศอีกที) โดยมีส่วนต่างระหว่างราคารับซื้อ (เราขาย) และราคาขายออก (เราซื้อ) อยู่ที่ 100 บาทและขยับขึ้น-ลงเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงถึง 50 บาท ซึ่งก็หมายความว่าถ้าราคาทองคำแพงขึ้นมากกว่า 150 บาทเราจะเริ่มมีกำไรจากการขาย

2. ซื้อขายทองคำแท่งผ่านระบบออนไลน์ กับบริษัทค้าทอง ซึ่งอาจส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบออนไลน์หรือแจ้งซื้อขายทางโทรศัพท์ ราคาที่ใช้ก็คำนวณจากราคาทองต่างประเทศเช่นกัน  โดยมากส่วนต่างราคารับซื้อและราคาขายออกจะต่างกันไม่ถึง 100 บาท และปรับเปลี่ยนขยับขึ้น-ลงเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเพียง 5 บาท นั่นหมายถึงถ้าราคาทองคำแพงขึ้นมากกว่า 100 บาทเราจะเริ่มมีกำไรจากการขาย นอกจากนี้ช่วงเวลาเปิดบริการซื้อขายเกือบ 24 ชั่วโมงตามเวลาต่างประเทศ ทำให้ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลงที่ตลาดไหนๆ เราก็ยังซื้อขายทองคำได้ตลอดเวลา

โดยมากการซื้อขายทองคำกับบริษัทค้าทอง มีเงื่อนไขการชำระเงิน และส่งมอบทองที่สามารถชำระภายหลังจากวันที่สั่งซื้อทอง (ส่วนมากกำหนดไว้ที่ 2 วันทำการ) การชำระเงินก็ผ่านบัญชีธนาคารที่เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้นักลงทุน

3. ออมทอง (Gold Saving)  การซื้อทองคำอีกรูปแบบที่มีความแตกต่างจาก 2 วิธีแรกพอสมควร คือแทนที่จะกำหนดน้ำหนักที่จะซื้อ แต่เป็นการกำหนดจำนวนเงินที่จะซื้อต่อเดือนแทน การซื้อทองคำในรูปแบบออมทองนี้จะระบุมูลค่าของเงินที่จะทำการซื้อทองคำในแต่ละเดือนไว้ชัดเจน และนำเงินจำนวนนั้นมาเฉลี่ยซื้อทองคำในทุกวันทำการ (หรือซื้อครั้งเดียวตอนต้นเดือนแล้วแต่นโยบายของแต่ละบริษัท) ซึ่งการซื้อทองในรูปแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินในปริมาณมาก(แค่หลักพัน) เป็นการซื้อทองสะสมไปเรื่อยๆ ยิ่งทองราคาถูกยิ่งได้ปริมาณทองเยอะด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม เมื่อการเก็บเล็กผสมน้อยผ่านระยะเวลาหนึ่ง เราก็จะได้ทองคำแท่งเป็นสลึง เป็นบาทๆ ได้เหมือนกัน

อยากรู้เรื่องทองมากกว่านี้ เรารวมไว้ให้ที่นี่แล้ว

อ่านบทความเรื่อง "ออมทอง"ต่างจาก"ผ่อนทอง"อย่างไร

  อ่านต่อ..

โพสต์ล่าสุด