หลายคนคงได้เห็น ทอง 18K หรือ 18K gold มาบ้างบนตัวเครื่องประดับทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ,แหวน,กำไล ฯลฯ ซึ่งบางคนสับสนว่าคืออะไร, แตกต่างจากแหวนทองแท้ที่ขายตามร้านทองอย่างไร ?
ทองคำที่ขายตามร้านทองส่วนใหญ่อย่าง ทองคำแท่ง และ ทองรูปพรรณ เป็น ทอง 96.5 % ( มาตรฐานทองในไทย ) หมายความว่ามีทองคำแท้ผสม 96.5 ส่วน อีก 3 ส่วน เป็นโลหะอื่น ๆ ซึ่งทองเปอร์เซ็นต์แบบนี้จะมีความแข็งแรง,ทนทานมากกว่า ทอง 99.9 % ( มาตรฐานทองคำสากล ) ที่มีความนิ่มและอ่อนตัวมาก ผลิตได้ยากกว่า ส่วนใหญ่จะซื้อขายเป็น “กิโลกรัม” ไม่เหมือนทอง 965 ที่มีน้ำหนักให้เลือกเยอะกว่าตั้งแต่ ครึ่งสลึง, 1 สลึง , 2 สลึง , 1 บาท ไปจนถึง 5 บาท , 10 บาท
ทองเค คือทองแท้ที่มีการผสมโลหะชนิดอื่น ๆ ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่า ( ใช้ทองแท้ผสมต่ำกว่า 96.5 % ) เพื่อให้เกิดความแข็งแรง,คงทนพอที่จะไม่ทำให้เพชรหรือแหวนบิดเบี้ยวได้ เพราะแม้จะเป็นทองแท้ที่ขายตามร้านทองเมื่อไปใส่ไปนาน ๆ ก็บุบเบี้ยวตามสภาพได้เช่น ซึ่งเปอร์เซ็นต์ที่ผสมจะมีหน่วยเรียกว่า กะรัต ( Karat ) ตัวย่อ K โดยยิ่ง K มากเท่าไหร่ก็หมายถึงมีส่วนผสมทองแท้มาก ซึ่งมากที่สุดคือ 24K ที่เทียบได้คือทอง 99.99 %
วิธีการคำนวณหาว่าทองกี่เปอร์เซ็นต์ เท่ากับกี่เค = จำนวน % คูณ 24 หาร 100
เช่น ทอง 96.5 % เท่ากับกี่เค ? ( 96.5 คูณ 24 หาร 100 ) = 23.16 K
วิธีการคำนวณหาว่าทองกี่เค เท่ากับกี่เปอร์เซ็นต์ = จำนวน K หาร 24 คูณ 100เช่น ทอง18K เท่ากับกี่เปอร์เซ็นต์ ? ( 18 หาร 24 คูณ 100 ) = 75 %
ดังนั้น ทอง 18K คือ ทองแท้ 75 % ผสมกับโลหะอื่น ๆอีก 25 % เช่น เงิน,ทองแดง,สังกะสี ซึ่งโลหะที่ผสมเหล่านี้ทำให้เกิดสีต่าง ๆ เช่น สีขาว ( White Gold ) , สีทอง ( Yellow Gold ) , สีพิงค์โกลด์หรือโรสโกลด์ ( Pink Gold,Rose Gold ) เป็นต้น ซึ่งวงการเครื่องประดับจิลเวลรี่มักจะใช้สูตร 18K ในการทำมากที่สุด
ทั้งนี้ ราคาแหวนทอง18K มีราคาแพงกว่า แหวนทอง14K ( ทอง 58.5 % ) เนื่องจากเปอร์เซ็นต์ทองที่มากกว่า ซึ่งในวงการแหวนเพชรมักจะมีตัวเรือนที่ทำจาก ทองเค,ทองคำขาว,ทองขาว,แพลตตินั่ม,เงิน ฯลฯ
อ่านบทความเพิ่มเติม " ราคาแหวนเพชรกับราคาแหวนทอง อะไรแพงกว่ากัน "
